|
ต่อนะครับ ไม่นึกว่าจะเงียบเชียบขนาดนี้ โดน GOD ย้ายห้องให้เรียบร้อย ผมก็ไม่ทราบว่าห้องไหนเหมาะสมที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ ต้องขออภัยจริง ๆ หากอ่านกันไปแล้วไร้สาระไปบ้างครับ
...ยิ่งเขียนยิ่งยาว มีน้ำซะมาก เทคนิคมีนิดเดียว เพราะผมกะจะให้มันเป็นบันทึกเกี่ยวกับผู้หญิงคนแรกที่ผมเข้าไปคุยด้วย...
เริ่มเลยนะครับ เสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2559 นัดกับเพื่อน 2 คนไปแช่ง เอ้ย! ชมเกมส์พรีเมียร์ลีกกับร้านเดิม (บทสรุปก็ค่อนข้างน่าพอใจ ทำให้ไฮเนเก้นรสนุ่มเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากอะไรนั้น หึ หึ ...) โดยตัวผมเองนั้นก็คาดหวังนิด ๆ ว่าจะได้เจอยมอีกครั้งคงจะดีไม่น้อย ซึ่งก็ อืมฝันเป็นจริงจนได้สิน่า ผมได้เจอเธอจริง ๆ เธอเข้ามาร้านประมาณ 3 ทุ่ม ผมสังเกตเห็นตั้งแต่แรกที่เธอเดินเข้าไปนั่งโต๊ะ เพราะเธอเลือกนั่งโต๊ะหน้าจอโปรเจ็คเตอร์พอดี ซึ่งอยู่ห่างจากผมประมาณ 5-6 เมตร การแต่งตัวยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เดิมคือ โชว์นม! ด้วยชุดแซกต์สีน้ำเงิน ตัดกับผิวสีขาวผ่องของเธอได้อย่างชวนมอง แต่วันนี้พิเศษกว่าเพราะมีเปิดหลังซะโล่งเผยให้เห็นลายอาร์ตเต็มหลัง ลายอะไรบ้างนั้นไม่ขอบอกนะครับ (อืมมมนี่จะว่าดอกอะไรก็ไม่รู้นะมันมืดเลยบอกไม่ได้ ฮ่า ๆ ) แต่มีหลัก ๆ อยู่ 3 ลาย ซึ่งน่าจะสักตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ไทยที่มักเห็นคนที่ชอบทางนี้สัก และไม่ใช่ลายสักเอาสวยงามทั่วไป ความสั้นของชายกระโปรงก็ไม่ต่างไปจากเดิม เอาวะขอลุ้นกันอีกสักรอบ ว่าผลจะออกมาเป็นไง เราจะแพ้ทางเหมือนเดิมหรือเปล่าหนอ
เอาหล่ะ คราวนี้ผมใช้เวลารวบรวมความกล้าไม่ถึง 88 รอบ เพราะเริ่มจะรู้สึกว่าเจนสนามนิดๆหล่ะ (88 รอบเลยผมยอมรับว่าไก่อ่อน) นั่งดูลาดเลาซักพัก ก็กำหนดอดกลั้นในใจว่าจะเข้าตีประมาณ 4 ทุ่ม พร้อม ๆ กับเสียงนกหวีดเริ่มเขี่ยบอลระหว่างแมนซิกับโบลตัน เพื่อดูว่าระหว่างแมนซิกับผมใครจะยิงประตูได้ก่อนกัน ซึ่งผมแพ้คับ แมนซิแรงไม่หยุด ฉุดยากมั่ก ๆ
เมื่อใกล้เวลา มีลมแผ่วเบาพัดมาโชยใบหน้า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เหมาะแก่เวลาเข้าตี ผมจึงหยิบมะขามเปียกมาจิ้มเกลือกินเพื่อข่มนามข้าศึก โฮ้ย! ขออภัยพลาด ฮ่า ๆ
โทดทีอ่านนิยายมากไปหน่อย ผมกระดกน้ำอมฤติย้อมใจ และถืออีกแก้วไปเป็นเพื่อน เดินอ้อมไปด้านหน้าเธอเพราะเธอนั่งหันหลังให้กับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ สังเกตว่าผู้ชายหลายคนในร้านมองมาที่ผม (ภูมิใจฉิ๊บบบหาย) ผมนั่งลงและยิ้มให้ เธอทำหน้าเหมือนจำผมได้ (มั้ง เข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแหละ) ก็ถามเธอว่าจำผมได้มั้ย เธอก็บอกว่าจำได้ ก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะอืม อือ ไปตามเรื่อง แล้วสายตาผมเหลือบไปเห็นต้มยำหม้อไฟที่เธอสั่งมากิน ก็เลยใช้ช้อนตักควานดูว่ามีเนื้อสัตว์มั้ย ปรากฎว่าตักเจอหอยแมลงภู่ครับ! ผมจึงมองหน้าเธอ เหมือนเธอก็รู้ว่าผมจะพูดอะไร...ใช่ครับ เธอบอกว่าหยุดกินเจแล้ว แต่เธอให้เหตุผลว่าพระเจ้าไม่ว่าไรหรอก เพราะเธอกินเจมานานแล้ว ความดีที่สั่งสมมามันจะช่วยให้ไม่ผิดบาปหากกินเนื้อสัตว์ อืม! ผมก็คิดค้านในใจ แต่ไม่อยากเถียงให้แธอเสียอารมณ์ เพราะดูเหมือนเธอจะเชื่อในสิ่งที่เธอคิดมากกกก และเป้าหมายที่แท้จริงของผมคือ ปั่มปั๊มมมม เครครับไม่ใช่มาคะคานกับใคร ซึ่งก็ดูเธอไม่ยี่หร่ะกับการที่โดนจับผิดได้เท่าไหร่ แถมยังขอหอยที่ผมตักอยู่ไปกิน (อยากจะบอกเธอว่าไม่สน,,,บ้างเหรออออ-แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอสนครับ!)
ช่วงการสนทนานี้ผมก็พยายามฟังจับใจความให้ได้มากที่สุดแหละครับ เอาเท่าที่ผมจำได้นะครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้ใช้ข้อมูลตรงนี้ในการจิจ๊ะอะไรมากเลย ท่านที่ไม่สนใจก็ข้ามได้ครับ เพราะช่วงเวลานั้นผมก็นึกคำพูดเพื่อที่จะขุดหลุมพลางล่อเหยื่อไม่ออกเหมือนกัน ได้แต่ฟังเธอพูดไปเรื่อยๆ
อย่างที่ผมบอกตั้งแต่โพสต์ก่อนแล้วว่าเธอดูแปลก ๆ พูดเหมือนย้ำคิดย้ำทำอยู่กับเรื่องพระเจ้า พระพุทธเจ้า ยมบาล หรือการกินเจของเธอมันทำให้เธอเหนือกว่าคนอื่น การโดนคิดไม่ดีจากคนที่ไม่ชอบหน้าเธอเพราะเธอกินเจหรือดูสูงกว่าคนอื่น และแฟนที่เป็นคนชอบออก ตจว. ก็พูดวกวนอยู่อย่างนี้ มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอคงได้รับบาดเจ็บทางจิตใจมาซักอย่าง และคงผ่านอะไรที่เลวร้ายมามากๆ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป
|
|