ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 552|ตอบกลับ: 8

เจอกันวันที่ เลสเตอร์ซิตี้ ทีมคนไทยได้แชมป์บอลอังกฤษ

[คัดลอกลิงก์]
ตอนที่ 1 ( ก็แล้วกันนะ)

            7 พฤษภาคม. 2559 เป็นวันแรกที่ทีมฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ได้เป็นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเป็นวันที่ผมเจอเธอคนนี้ ที่จำได้แม่นเพราะวันนั้นเป็นวันฉลองแชมป์ในประวัติศาสตร์หลายอย่างของฟุตบอลอังกฤษที่นักเล่นไร้ชื่อ และเป็นทีมที่คนไทยเป็นเจ้าของ  หลังจากที่ดูบอลไปเฮฮากับการฉลองแชมป์ ผมก็มองไปเห็นเธอคนหนึ่งใส่ชุดแซกซ์สีดำคอลึก ชำเลืองเห็นนมประมาณ 1 ใน 4 ของเต้า

หืมมมมผมไม่ได้สังเกตเห็นว่าเป็นรูปค้างคาวสีดำ (ซึ่งตอนหลังเธอยืนยันกับผมว่าเป็นค้างคาวสีดำ จะพูดจริง หรือติดตลกก็ไม่ทราบว่าผมไปลบหลู่หรือไม่ ถ้าผมบอกว่าไม่เชื่อว่ามันเป็นค้างคาวเลย) ที่เกาะอยู่บนราวนมด้านซ้ายฝั่งในของเธอ ด้วยความสัตย์จริงผมมองมันเป็นเหมือนเหยี่ยวตัวทรงพลังกำลังเหยียบอยู่บนลูกโลกซึ่ง ลักษณะเหมือนมันกำลังกระพือปีกเป็นพัก ๆ มากกว่า

มองเห็นแล้วอยากโดนเหยี่ยวกางปีกตบเข้าที่แก้มทั้งสองข้าง ไม่ก็งับหัวเหยี่ยวให้หายไปในปากซะจริง ๆ   ส่วนชายกระโปรงเวลานั่งก็สั้นซะเสมอ... เพิ่งมารู้ภายหลังว่าเธอไม่ได้เซฟด้วยขาสั้นเลยสิ ถ้าถลกขึ้นไปลานประลองก็เปิดกว้างทันที มีเพียงลูกไม้บางๆ กั้นอยู่เท่านั้นเอง

          วันนั้นเธอมานั่งที่ร้าน... (ขอปิดบังชื่อร้านละกัน เพราะเธอมักไปนั่งที่ร้านนี้ประจำ) ซึ่งเป็นร้านลักษณะกินดื่ม มีดนตรีสดแสดง เธอสั่งน้ำผลไม้มาบรรจงจิบและเลียริมฝีปากเบา ๆ อยู่อย่างเดียวดาย

และขณะหนึ่งนั้นเธอก็หันเหลือบชายตามาทางผมซึ่งกำลังส่งกระแสจิตไปสัมพัสอะไรสักอย่างในตัวเธอเป็นแน่
ซึ่งผมนั่งอยู่เยื้องกับโต๊ะเธอคนนั้นประมาณ 7 เมตร ตอนแรกผมนั่งอยู่กับเพื่อนสองคน แต่พอดีเพื่อนผมติดธุระต้องทำงานจึงขอกลับก่อนประมาณตอนเที่ยงคืน
ผมจ้องมองเธออยู่นาน แต่เธอก็เหมือนมองแว๊ปมาที่ผมแล้วผ่านไปประหนึ่งว่าไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับผมเอาเสียเลย

         ผมรวบรวมความกล้าประมาณ 88 รอบ  เพราะผมไม่เคยเข้าไปทักหรือจีบผู้หญิงในร้านเหล้ามาก่อน
ผู้เข้าชม
หากต้องการติดต่อน้องคนนี้ จะต้องสมัครสมาชิก VIP ก่อนนะคะ กดแอทไลเพื่อสมัครได้เลย
เพิ่มเพื่อน


โพสต์ 2016-5-16 02:47:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
goooooooooooooooood
โพสต์ 2016-5-16 11:20:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เยี่ยมเลย..อยากเจอแบบนี้บ้างจัง
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-5-17 01:21:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

]ขณะที่คุยกันผมสบตาเธอแทบจะตลอดเวลา มีแอบเผลอมองดูนมเธอเป็นช่วง ๆ  “ไม่กินเหล้าเหรอ” “ปกติก็กิน แต่วันนี้ไม่อยาก”
ผมก็ฟังเธอไปเรื่องจนมาสะดุดอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอบอกว่าเธอเป็นคนกินเจ ไม่กินเนื้อสัตว์เลย และนับถือศาสนาพุทธมาก โดยเฉพาะท่านยมบาล (น่าจะเป็นที่มาที่ทำให้เธอใช้นามแฝงตัวเองว่า ยม)

“กินเจแต่กินเหล้าได้อยู่ใช่มั้ย” ผมถามเธอ เธอตอบว่า “กินได้สิ เพราะเหล้าก้มาจากพืช แต่วันนี้ยมไม่ดื่มคะ” คำตอบของเธอทำให้ผมอึ้งไป 2-3 วินาที
เพื่อเคี้ยวสิ่งที่เธอกำลังบอกผมว่ากินเหล้าไม่ผิดหรอกเพราะมันมาจากพืช ฆ่าสัตว์บาปกว่าตั้งเยอะ  (นีจะเอาฮาดีป่ะเนี่ย)

แต่ขณะที่กำลังคุยอยู่นั้น เด็กในร้านคนหนึ่งก็เดินกำขวดเบียร์เดินตรงมาที่ผม และเขม่นมองที่ผมไม่วางตา พอมาถึงตรงหน้าผมมันก็พูดว่า....
          “พี่ค้าบ เบียร์พี่เหลือครับ” แล้วยกมืออีกข้างขึ้นมาบอกว่า “นี่ ใช่โทรศัพท์พี่ด้วยใช่ป่ะครับ”  “ใช่ครับ ขอบคุณมากคับ” ...เฮือก กูเกือบวิ่ง แล้ว แสรดดดดด
…ยอมรับว่าเด็กที่ร้านนี้บริการดีพอสมควร

          กลับมาที่น้องยมเธอคุยเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อของเธอสักพัก ช่วงนั้นผมก็ได้แต่พยักหน้า ลักษณะการพูดของเธอจะพูดไปเรื่อย ๆ เรื่องราวไม่ค่อยประติดประต่อ (หรือผมตามไม่ทัน เพราะสาระวัน สาระวันกะจะส่องเต้านางกันแน่ก็ไม่รู้)

วนอยู่กับเรื่องยมบาล พระเจ้า พระพุทธเจ้า เรื่องคนที่อิจฉาเธอเพราะเธอกินเจจนเอาปืนมายิงเธอแต่เธอรอดมาได้ บลาๆๆๆ ยิ่งฟังเธอผมยิ่งพิศวงงงงวย
สักพักก็มีแว้นซ์ทั้งหลายที่อยู่หน้าร้านเริ่มอยากออกกำลังกายกัน โดยการโยนขวดไปมา ฝ่ายหนึ่งหนีขึ้นแทกซี่ อีกฝ่ายยังตามไปกระโดดถีบรถ
ยมเองก็วิ่งออกไปดูพร้อมกับเปรยกับผมอย่างจริงจังว่าสงสัยท่านยมบาลจะมาเอาคนไปอยู่ด้วย ส่วนผมฟังเสร็จก็รีบขยับกายไปแอบอยู่หลังเสาเพราะกลัวโดนลูกหลง (กำ เมิงจะมาเสียวอะไรกันที่นี่วะเนี่ย)

สุดท้ายแทกซี่ก็ฝ่าวงล้อมไปได้ ยมเดินกลับมาและขอตัวไปห้องน้ำ กลับมาก็ขอตัวกลับโดยบอกกับผมว่า “ยมจะกลับแล้ว ยมไม่ไปกับเธอนะ”
เธอยืนยันอยู่อย่างนั้นแม้ว่าผมอาสาจะขับรถ (กระบะสุดหรู) ไปส่งเธอก็ตาม แล้วเดินจากไปรอรถแทกซี่ตรงทางขึ้นรถไฟฟ้า ผมวิ่งตามไปขอเบอร์แต่เธอก็ไม่ให้ ผมจึงเดินออกมา คล้อยหลังหน่อยก็มีผู้ชาย 2-3 คนเข้ามาคุยกับเธอแต่เธอก็ไม่ไปด้วย

..นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ผมได้เจอเธอครั้งแรก การพลาดครั้งนี้มันทำให้ผมต้องไปหาที่ระบาย (หากเป็นความร้อน ผมว่าปรอดแตกแน่ ๆ )  ผมจึงออกเดินทางไปยังสนามหลวงด้วยตัวเอง (ในห้องน้ำ) กำสายชักจนสายว่าวขาดร่วงโรย เป็นอันเสร็จกิจ (หนิหื่นหรอเนี่ยพ่อคุ๊นนนน)

สิ่งที่ผมเรียนรู้ครั้งนี้คือ ผมไม่เสียใจเลยที่ปิดเกมส์ไม่ได้ หรือไม่ได้แม้กระทั่งเบอร์โทร กลับกันผมกลับรู้สึกดีใจที่ผมมีความกล้าเข้าไปคุยกับเธอ
และผมว่ามันมีเทคนิคอีกอันที่ทำให้ผมไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  คือ

การที่เราสามารถเลือกที่จะตอบสนอง (เศร้าเสียใจ, เสียเซลฟ์, เฉยๆ, ดีใจเพราะมองว่ามันเป็นบทเรียน ฯลฯ) ต่อสิ่งเร้า (การโดนปฏิเสธ) ได้ จะเห็นได้ว่ามีตัวเลือกในการตอบสนองมากกว่าหนึ่ง ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะดีใจและมองมันเป็นบทเรียน ประมาณนี้คับ

          ...เดี๋ยวมาต่อนะครับ เพราะผมมีโอกาสเจอเธออีกครั้งในร้านเดียวกันนี่แหละ ความจริงที่เปิดเผยออกมามันทำให้ผมช็อคพอสมควร
แต่ผมก็ปกป้องตัวเองไม่ได้ เพราะผมกลายเป็นคนมากน้ำใจไปแล้ว ก็เลยต้องร้องเพลงนี้ “รู้เค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก”..
โพสต์ 2016-5-17 08:03:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
จินตนาการตาม เหนภาพเลยทีเดียว
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-5-25 00:17:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
  ต่อนะครับ ไม่นึกว่าจะเงียบเชียบขนาดนี้ โดน GOD ย้ายห้องให้เรียบร้อย ผมก็ไม่ทราบว่าห้องไหนเหมาะสมที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ ต้องขออภัยจริง ๆ หากอ่านกันไปแล้วไร้สาระไปบ้างครับ

             ...ยิ่งเขียนยิ่งยาว มีน้ำซะมาก เทคนิคมีนิดเดียว เพราะผมกะจะให้มันเป็นบันทึกเกี่ยวกับผู้หญิงคนแรกที่ผมเข้าไปคุยด้วย...

          เริ่มเลยนะครับ เสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2559 นัดกับเพื่อน 2 คนไปแช่ง เอ้ย! ชมเกมส์พรีเมียร์ลีกกับร้านเดิม (บทสรุปก็ค่อนข้างน่าพอใจ ทำให้ไฮเนเก้นรสนุ่มเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากอะไรนั้น หึ หึ ...) โดยตัวผมเองนั้นก็คาดหวังนิด ๆ ว่าจะได้เจอยมอีกครั้งคงจะดีไม่น้อย ซึ่งก็ อืมฝันเป็นจริงจนได้สิน่า ผมได้เจอเธอจริง ๆ เธอเข้ามาร้านประมาณ 3 ทุ่ม ผมสังเกตเห็นตั้งแต่แรกที่เธอเดินเข้าไปนั่งโต๊ะ เพราะเธอเลือกนั่งโต๊ะหน้าจอโปรเจ็คเตอร์พอดี ซึ่งอยู่ห่างจากผมประมาณ 5-6 เมตร การแต่งตัวยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เดิมคือ โชว์นม!   ด้วยชุดแซกต์สีน้ำเงิน ตัดกับผิวสีขาวผ่องของเธอได้อย่างชวนมอง แต่วันนี้พิเศษกว่าเพราะมีเปิดหลังซะโล่งเผยให้เห็นลายอาร์ตเต็มหลัง ลายอะไรบ้างนั้นไม่ขอบอกนะครับ (อืมมมนี่จะว่าดอกอะไรก็ไม่รู้นะมันมืดเลยบอกไม่ได้ ฮ่า ๆ ) แต่มีหลัก ๆ อยู่ 3 ลาย ซึ่งน่าจะสักตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ไทยที่มักเห็นคนที่ชอบทางนี้สัก และไม่ใช่ลายสักเอาสวยงามทั่วไป ความสั้นของชายกระโปรงก็ไม่ต่างไปจากเดิม เอาวะขอลุ้นกันอีกสักรอบ ว่าผลจะออกมาเป็นไง เราจะแพ้ทางเหมือนเดิมหรือเปล่าหนอ

          เอาหล่ะ คราวนี้ผมใช้เวลารวบรวมความกล้าไม่ถึง 88 รอบ เพราะเริ่มจะรู้สึกว่าเจนสนามนิดๆหล่ะ (88 รอบเลยผมยอมรับว่าไก่อ่อน) นั่งดูลาดเลาซักพัก ก็กำหนดอดกลั้นในใจว่าจะเข้าตีประมาณ 4 ทุ่ม พร้อม ๆ กับเสียงนกหวีดเริ่มเขี่ยบอลระหว่างแมนซิกับโบลตัน เพื่อดูว่าระหว่างแมนซิกับผมใครจะยิงประตูได้ก่อนกัน ซึ่งผมแพ้คับ แมนซิแรงไม่หยุด ฉุดยากมั่ก ๆ
          เมื่อใกล้เวลา มีลมแผ่วเบาพัดมาโชยใบหน้า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เหมาะแก่เวลาเข้าตี ผมจึงหยิบมะขามเปียกมาจิ้มเกลือกินเพื่อข่มนามข้าศึก โฮ้ย! ขออภัยพลาด ฮ่า ๆ

           โทดทีอ่านนิยายมากไปหน่อย  ผมกระดกน้ำอมฤติย้อมใจ และถืออีกแก้วไปเป็นเพื่อน เดินอ้อมไปด้านหน้าเธอเพราะเธอนั่งหันหลังให้กับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ สังเกตว่าผู้ชายหลายคนในร้านมองมาที่ผม (ภูมิใจฉิ๊บบบหาย) ผมนั่งลงและยิ้มให้ เธอทำหน้าเหมือนจำผมได้ (มั้ง เข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแหละ) ก็ถามเธอว่าจำผมได้มั้ย เธอก็บอกว่าจำได้ ก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะอืม อือ ไปตามเรื่อง แล้วสายตาผมเหลือบไปเห็นต้มยำหม้อไฟที่เธอสั่งมากิน ก็เลยใช้ช้อนตักควานดูว่ามีเนื้อสัตว์มั้ย ปรากฎว่าตักเจอหอยแมลงภู่ครับ! ผมจึงมองหน้าเธอ เหมือนเธอก็รู้ว่าผมจะพูดอะไร...ใช่ครับ เธอบอกว่าหยุดกินเจแล้ว แต่เธอให้เหตุผลว่าพระเจ้าไม่ว่าไรหรอก เพราะเธอกินเจมานานแล้ว ความดีที่สั่งสมมามันจะช่วยให้ไม่ผิดบาปหากกินเนื้อสัตว์ อืม! ผมก็คิดค้านในใจ แต่ไม่อยากเถียงให้แธอเสียอารมณ์ เพราะดูเหมือนเธอจะเชื่อในสิ่งที่เธอคิดมากกกก และเป้าหมายที่แท้จริงของผมคือ ปั่มปั๊มมมม  เครครับไม่ใช่มาคะคานกับใคร ซึ่งก็ดูเธอไม่ยี่หร่ะกับการที่โดนจับผิดได้เท่าไหร่ แถมยังขอหอยที่ผมตักอยู่ไปกิน (อยากจะบอกเธอว่าไม่สน,,,บ้างเหรออออ-แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอสนครับ!)
          ช่วงการสนทนานี้ผมก็พยายามฟังจับใจความให้ได้มากที่สุดแหละครับ เอาเท่าที่ผมจำได้นะครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้ใช้ข้อมูลตรงนี้ในการจิจ๊ะอะไรมากเลย ท่านที่ไม่สนใจก็ข้ามได้ครับ เพราะช่วงเวลานั้นผมก็นึกคำพูดเพื่อที่จะขุดหลุมพลางล่อเหยื่อไม่ออกเหมือนกัน ได้แต่ฟังเธอพูดไปเรื่อยๆ

          อย่างที่ผมบอกตั้งแต่โพสต์ก่อนแล้วว่าเธอดูแปลก ๆ พูดเหมือนย้ำคิดย้ำทำอยู่กับเรื่องพระเจ้า พระพุทธเจ้า ยมบาล หรือการกินเจของเธอมันทำให้เธอเหนือกว่าคนอื่น การโดนคิดไม่ดีจากคนที่ไม่ชอบหน้าเธอเพราะเธอกินเจหรือดูสูงกว่าคนอื่น และแฟนที่เป็นคนชอบออก ตจว. ก็พูดวกวนอยู่อย่างนี้  มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเธอคงได้รับบาดเจ็บทางจิตใจมาซักอย่าง และคงผ่านอะไรที่เลวร้ายมามากๆ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-5-28 10:27:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันนี้ที่เจอกัน เราได้พูดคุยกัน มากมายหลายประเด็นมากขึ้น เพราะส่วนหนึ่งก็ถือว่า เคยทักทายคุ้นเคยกันจากคราวที่แล้วมาพอสมควรหล่ะ
          เธอเล่าให้ฟังว่าเคยมีลูกชายร้านทองมาติดเธออยู่พักหนึ่ง ชื่อร้าน .......เฮงอะคับ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยที่พักของเธอ น่าจะเป็นร้านขายทองทั่วไปธรรมดา แต่ไม่ใช่ฮั่วเซ่งเฮงนะครับ แต่เธอก็คบได้ไม่ยืด เพราะพ่อแม่ฝ่ายชายกีดกัน เธอก็ยอมถอยห่างออกมา เธอบอกว่าเธอประทับใจลูกชายร้านทองเพราะเค้าเป็นคนขี้อาย ชอบมาแอบมองเธอตอนที่ทำงานอยู่ในซอยนั้นแหละแต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเธอทำอะไร  

          ผมนั่งคุยกับเธอประมาณ 30 นาทีได้ เริ่มจะตัน อยู่ไปก็เสียฟอร์ม ก็เลยจะบาย แต่ก่อนจะออกมาผมก็ขุดหลุมล่อเหยื่อไว้ด้วย (ซึ่งผมว่ามันเหมือนขุดหลุมฝังตัวเองซะหล่ะ)  โดยอธิบายว่าผมมากับเพื่อน 2 คน ถ้าเธอไม่มีเพื่อนก็ไปนั่งกับผมก็ได้นะครับ สังเกตุนะครับผมไม่ได้ใช้คำพูดในเชิงบังคับ แต่ให้เธอเลือกด้วยตัวเธอเองว่าจะไปรึเปล่า ถ้าเธอมาก็ดีไป แต่ถ้าเธอไม่มา คนใจหล่ออย่างผมก็ไม่เสียใจ (บางท่ายอาจจะ ครากถุยผมก็ได้ ฮ่า ๆ ๆ)

          พอผมลุกออกมานั่งโต๊ะได้ประมาณ 10 นาที เธอก็สั่งเชคบิล ตอนนั้นไอ้ใจหล่อก็ใจแป้วเหมือนกัน ฮะฮะ (เวรหล่ะกรู) และเธอลุกเดินออกไปจากร้าน แต่ๆๆๆๆๆๆๆ เธอกลับไปนั่งอีกที่หนึ่ง ซึ่งเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เธอนั่งในวันแรกที่ผมพบเธอ ระหว่างสายตาของผมก่อนจะถึงเธอจะมีกลุ่มเด็กในร้านนั่งออกันอยู่ 3-4 คน ใกล้ ๆ กับโต๊ะของเธอ ทำให้ผมส่งสายตาให้เธอได้ไม่ถนัดเท่าที่ควร แต่ไม่ถนัดไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ชิมิล้า

         และแล้วพระพายก็โชยพัด ดูสงัดสรรพสิ่งช่างนิ่งเฉย อย่าปล่อยโอกาสคลาดไปให้เปล่าเลย ลมรำเพยจะถุยถ่มสมน้ำหน้า...ขอนิสส์นุง ไม่รู้ว่าเป็นเทพหรือมารดลใจให้ตัวข้า ได้เดินหน้ารุกต่อไป (เจ้าบทเจ้ากลอน) แน่นอนครับโอกาสมาถึงแล้ว ผมซื้อดอกกุหลาบจากเด็กที่มาเดินขายในร้าน 20 บาท แล้วให้เด็กเอาไปให้เธอ เธอรับไว้และมองมาที่ผม ยิ้มให้ผม และยกมือไหว้ขอบคุณ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที บรรดาเก้งกวางขวางสายตาที่อยู่ตรงนั้นก็ลุกออกไป ผมจึงยกมือแสดงท่าทางเหมือนส่งสัญญาณให้เธอมานั่งด้วยกัน ใช่ครับ เธอไม่ปฏิเสธผม

          เมื่อเธอมานั่งที่โต๊ะ ผมรู้สึกได้ว่าอาการเกร็งระหว่างผมและเธอได้หายไปแล้ว  คุยกันได้เนียนตามากขึ้น  และที่สำคัญผมรู้สึกว่ามีอะไรในแววตาของเราทั้งสอง ยิ่งตอนเธอร้องคลอไปตามเพลง “กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม” ของเครสเซนโด แล้วพยายามเล่นหูเล่นตากับผมที่ร้องเพลงไปพลางเหมือนกัน มันช่างให้ความรู้สึกดีแบบแปลกๆ ...ผมก็แนะนำเพื่อนผมให้รู้จัก ซึ่งไอ้นี่หล่อกว่าผมมากครับ แต่มันยังปลดล็อคตัวเองไม่ได้ ถ้าปลดล็อคได้ผมรับรองว่ามันคง เปรี้ยว หวาน หอมหวล ชวนสาวน้อย สาวแก่ แม่หม้าย ได้มากมายกว่าผมแน่นอน

           แต่ตอนนี้ก็ใช่ว่าผมจะปลดล็อคตัวเองได้ระดับหนึ่งหล่ะนะ  ฮะๆ คุยกันได้สักพักเพื่อนผมอีกคนมาสมทบ เมามาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้เจอกันมาปีกว่า ๆ แล้ว เพิ่งโทรให้มาหา ไอ้นี่ปากหมามาก แต่วันนี้ดูสงบเสงี่ยมเป็นพิเศษ นัยว่าเปิดทางให้ผม มาถึงโต๊ะก็ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่บางอย่างก็ไม่เรื่อยเปื่อยนะ คือการพับดอกกุหลาบจากกระดาษทิชชู่ ผมว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างนึงนะ ดูยมเค้าสนใจดี ผมว่าจะให้มันสอนให้หน่อยแล้ว

          ขอรวบรัดเลยละกันยาวมากแล้ว เด๋วคนอ่านเบื่อ(ชักจะลากยาวไปหล่ะ) นั่งกินเหล้าต่อจนถึงร้านเกือบปิด ผมอยากไปต่อ เธอจึงชวนไปร้านเหล้าถึงคาราโอเกะที่อยู่หน้าปากซอยห้องพักเธอ เพื่อนผมขอตัวกลับคนนึง จึงเหลือผม เธอ และเพื่อนผม 3 คนไปต่อกัน ก็เข้าไปนั่งกินเหล้ากัน ผมเลือกโต๊ะที่เป็นโซฟา จะได้นัวเนียกันได้เนอะท่านผู้อ่าน ซึ่งก็ตามนั้นเธอก็เข้ามานัวกับผมจริง ๆ หน้าตาเธอมันยั่วยวนมาก จนผมอดไม่ไหวดึงเข้าจูบปาก ผู้ชายทั้งร้านแอบเหล่มาที่ผมทั้งนั้น บางทีเธอก็ใช้ปากคาบหมูทอดมาป้อนใส่ปากผม

          ร้านนี้เป็นคาราโอเกะด้วย แน่นอนครับ เพลงที่เธอขอคือ “กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม” ของเครสเซนโด
          “ทำไมสายตาเย็นชา เวลาที่เราเจอกัน ทำไมต้องทำอะไรอย่างนั้น ไม่เข้าใจ” ใช่ครับ ผมไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เนื้อเพลงพูดถึงสายตาที่เย็นชา แต่สายตาที่เธอกับผมมองกันเวลาร้องเพลงนี้ไปด้วยกันมันช่างเหมือนสายตาของคนรัก และสายตาเธอช่างทายท้าให้ผมเข้าไปบดปากกัน - แต่ก่อนผมไม่เคยชอบเพลงนี้เพราะผมมองว่ามันป๊อบเกินไป แต่หลังจากวันนั้นเพลงนี้ก็แทบจะเข้ามากระแทกแทรกอยู่ในชีวิตของผมตลอดเวลา ยิ่งนึกถึงเพลงนี้ทีไร รอยยิ้มและสายตาอันทายท้านั้นจะผุดขึ้นมาในใจผมทุกที

        นั่งไปได้ชั่วโมงหนึ่งประมาณตีสามนิด ๆ เธอก็มากระซิบที่ข้างหูผมด้วยเสียงกระเส่า “ไปโรงแรมกันนะ” ..เหยดดดดดด วินาทีนั้น มันช่างเป็นความรู้สึกสุดยอด แต่รู้สึกสุดยอดอยู่ได้ไม่ถึง 3 วินาที ขอเงิบแฟรบบบบบ มันตามมาด้วยคำพูดที่ว่า  “3 พันนะ!!!!!!!!!”


   ผมช็อคไปนิดนึง แต่แอบสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกสติกลับมาทั้งหมด แล้วตอบเธอไปว่า “ได้” และต่อว่า “แต่เดี๋ยวขออยู่ที่ร้านก่อนได้มั้ย เหล้ายังไม่หมดเลย” เออ "ถ้าเอาแบบสบายใจต้องใช้ผลประโยชน์เข้าแลกเลยหรอ" เธอบอกต่อว่า "อยากรู้ว่าถ้าพูดคำนี้ออกไป เธอจะมองยมเป็นยังไง" ผมคิดอะไรในหัวต่ออีกหลายอย่าง แต่ก็ยังสนุกกับเธอต่อไป ตลอดเวลาเธอเทคแคร์ผมดีมาก ๆ อยู่ด้วยแล้ว โทดนะครับ แมร่งงงงรู้สึกเอนเตอร์เทรนด์ฉิบหาย หรือผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้ก็ไม่รู้นะมีความสุขจนเช้าไม่รู้ตัว เวลาเกือบ 6 โมงเช้าก็เลยเช็คบิล และผมหันไปพูดกับเธอเบาๆว่า


   “ผมไม่ไปต่อโรงแรมนะครับ”


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ปิด

กระทู้น่าติดตามก่อนหน้า /1 ต่อไป

ที่รัก.net ผู้ชายขายตัวให้ผู้หญิง

GMT+7, 2024-3-29 21:48 , Processed in 0.053974 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.6

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้